วันที่ 25 กรกฎาคม 2560 เวลา 10.00 น. นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีสมทบกองทุนสงเคราะห์ผู้เจ็บป่วย พิการ ยากไร้ ในอ่างทอง ณ อุโบสถวัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยมี นางทักษณิภร ปุตระเศรณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ นายประมวล มุ่งมาตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายรัฐฐะ สิริธรังศรี ปลัดจังหวัดอ่างทอง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายภราดร ปริศนานันกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอ่างทอง นายสุรเชษ นิ่มกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ผู้แทนจากองค์กรภาครัฐและเอกชน ทหาร ตำรวจ เข้าร่วมในพิธี

     นายรัฐฐะ สิริธรังศรี ปลัดจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า จังหวัดอ่างทองมีผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย ผู้สูงอายุ คนพิการ สตรี เด็กและเยาวชน โดยผู้ประสบปัญหาดังกล่าวล้วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีและการสื่อสารส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งด้านปัจจัยสี่ และการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยเฉพาะคนยากจนซึ่งประสบปัญหาทางสังคมด้านอื่นๆร่วมด้วย จังหวัดอ่างทองจึงได้กำหนดนโยบายบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างเสริมเพิ่มสุขผู้พิการ เจ็บป่วย ยากไร้ จังหวัดอ่างทอง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาดังกล่าว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตอยู่บนพื้นฐานความจำเป็นขั้นพื้นฐานในปัจจัยสี่ รวมทั้งเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมสร้างความสุข บรรลุวิสัยทัศน์จังหวัดอ่างทองและตอบสนองนโยบายรัฐบาล แต่เนื่องจากหน่วยงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมีงบประมาณไม่เพียงพอ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองนายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี จึงมีดำริให้จัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ผู้เจ็บป่วย พิการ ยากไร้ ในอ่างทอง ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

1. บูรณาการความร่วมมือระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชนในการระดมทรัพยากรเพื่อบำบัดทุกข์และสร้างเสริมความสุขให้กับผู้ยากไร้ตามแนวทางประชารัฐ

2. เพื่อซ่อมและสร้างบ้านพักอาศัยให้กับผู้ยากไร้ให้มีที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่ที่ดีขึ้น

3. เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ให้ตรงกับสภาพปัญหาความต้องการและความจำเป็นได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว และ

4. เพื่อช่วยเหลือวัสดุ อุปกรณ์ ที่จำเป็นสำหรับผู้เจ็บป่วย พิการ ยากไร้

     โดยสำหรับผ้าป่าสามัคคีที่ทอดในครั้งนี้ มียอดบริจาคอยู่ที่ 2,695,325.34บาท (สองล้านหกแสนเก้าหมื่นห้าพันสามร้อยยี่สิบห้าบาทสามสิบสี่สตางค์)