สสจ.อ่างทอง เตือนผู้ปกครองเฝ้าระวังลูกหลาน 2 โรคในเด็ก “ไข้เลือดออก–มือเท้าปาก” ช่วงฤดูฝน
- Details
- Published on Tuesday, 16 July 2013 00:00
- Written by สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอ่างทอง
- Hits: 4124
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช นายแพทย์เชี่ยวชาญ(ด้านเวชกรรมป้องกัน) ได้สั่งการและเน้นให้โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง เฝ้าระวังและควบคุมป้องกัน 2 โรคในเด็กที่พบมากในฤดูฝน คือไข้เลือดออกและโรคมือเท้าปาก ซึ่ง 2 โรคนี้สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งเจริญเติบโตได้ดี เนื่องจากฝนตกชุกและสภาพอากาศชื้น มีอาการเริ่มต้นใกล้เคียงกัน พบได้ตลอดปี และพบมากขึ้นในฤดูฝน ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน กลุ่มที่ต้องให้การดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งยังดูแลตัวเองได้น้อยกว่าคนทั่วไป สถานการณ์โรคทั้ง 2 โรคล่าสุด ในระดับประเทศพบผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 5,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและนักเรียน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนโรคมือเท้าปากพบผู้ป่วยสะสม 16,112 ราย ร้อยละ 93 อายุต่ำกว่า 5 ขวบ ยังไม่มีเสียชีวิต
สำหรับจังหวัดอ่างทอง สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 พบผู้ป่วย 121 ราย อัตราป่วย 42.93 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต แต่จำนวนผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมา 1.4 เท่า ส่วนใหญ่เป็นเด็กและนักเรียน กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 10-14 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 15-24 ปี อำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ อำเภอไชโย อัตราป่วย 99.44 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ แสวงหา และเมืองอ่างทอง อัตราป่วย 60.56, 44.64 ต่อประชากรแสนคน ตามลำดับ จึงได้กำชับให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง เร่งดำเนินการควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างเข้มข้น ซึ่งคาดว่าจะระบาดสูงสุดในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จึงขอความร่วมมือหน่วยงานทุกแห่งทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนทุกพื้นที่ ควรเร่งดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้น พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์/รณรงค์ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายและภาชนะที่มีน้ำขังที่ไม่ได้ใช้อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องในชุมชน โดยเน้นมาตรการ 5ป 1ข ปิดฝาภาชนะให้สนิท เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่ปิดไม่ได้ ปล่อยปลากินลูกน้ำ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ปฏิบัติเป็นประจำทุกๆ 7 วัน ขัดล้างไข่ยุงลายที่แห้งติดภาชนะ ส่วนการรักษาเน้นการป้องกันการเสียชีวิตผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งได้อบรมฟื้นฟูความรู้และแนวทางตรวจวินิจฉัย การรักษา โดยเฉพาะแพทย์จบใหม่ แพทย์รักษาเด็ก หากพบผู้ป่วยมีอาการในข่ายสงสัยคือไข้สูงมากกาว่า 38 องศาเซลเซียส ไม่มีอาการไอ ให้รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลและเข้าสู่ระบบการตรวจคัดกรองโรคไข้เลือดออก ตามมาตรการที่กำหนด และหากพบว่าเป็นไข้เลือดออกให้ประสานส่งทีม เฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว(SRRT) ลงควบคุมโรคที่บ้านหรือโรงเรียน ทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
สำหรับโรคมือเท้าปาก ขณะนี้พบว่าแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะอยู่ในช่วงการระบาด แต่สถานการณ์ไม่รุนแรง จำนวนผู้ป่วยในภาพรวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ได้กำชับให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง เฝ้าระวังป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล เนื่องจากมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ให้ประสานครูในโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกแห่ง เพื่อร่วมเฝ้าระวังและตรวจจับโรคได้ทันและแจกเอกสารความรู้โรคมือเท้าปาก ให้ผู้ปกครองเด็กทุกคน รวมทั้งขอความร่วมมือให้โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ล้างทำความสะอาดฆ่าเชื้อเครื่องเล่น ของใช้ของเด็กทุกวัน ประการสำคัญให้ช่วยตรวจคัดกรองเด็กทุกเช้า ดูตุ่มที่มือ เท้า และปากของเด็ก หรือมีไข้ หากพบเด็กป่วยให้แยกเด็กและให้ผู้ปกครองรับตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล และประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดทันที
ทั้งนี้ อาการของโรคมือเท้าปากและไข้เลือดออก จะเริ่มจากไข้สูงเหมือนกัน และไม่มีอาการไอ ไม่มีน้ำมูก หากเป็นไข้เลือดออก ไข้จะสูงลอยต่อเนื่อง กินยาลดไข้ไม่ลด หน้าแดง มีผื่นแดง หรือจุดเลือดออก ใต้ผิวหนัง ส่วนมือเท้าปาก หลังมีไข้จะมีตุ่มน้ำใสขนาดเล็กขึ้นที่บริเวณมือ เท้า มักไม่คัน และตุ่มอาจขึ้นภายในเยื่อบุช่องปาก ตามลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม เด็กจะเจ็บ ไม่กินอาหาร หากประชาชนพบบุตรหลานมีอาการป่วยที่กล่าวมา ขอให้พาไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และรักษาโดยเร็ว