วันที่ 20 ธันวาคม 2959 เวลา 09.00น.  นายรณชัย จิตรวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร ท้องถิ่นอ่างทอง สุจริตโปร่งใส โดยมี นางยิษฐา แว่วศรี ท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง ผู้บริหารและปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอ่างทอง จำนวนทั้งสิ้น 130 คน ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

     นางยิษฐา แว่วศรี ท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้จัดยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 2 พ.ศ.2556 - 2560 ขึ้นเพื่อเป็นกรอบให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการแปลงยุทธศาสตร์แนวทาง และมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง จึงได้ดำเนินการจัดโครงการ ท้องถิ่นอ่างทอง สุจริตโปร่งใส เพื่อให้คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมทั้งสร้างจิตสำนึกคุณธรรมแห่งการปฏิบัติงาน และเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการการป้องกันและแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด

จังหวัดอ่างทอง เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชน รุ่นอายุ 14 ปี รอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2555 เวลา 17.30 น.
           นายวิศว ศะศิสมิต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชน รุ่นอายุ 14 ปี รองบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2555 ณ โรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทอง
           นายไกรสร กลับทวี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ด้วยจังหวัดอ่างทอง ได้รับเกียรติจากกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบหมายให้ ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล เยาวชนและประชาชน รุ่นอายุ 14 ปี รอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2555 โดยมีทีมที่ผ่านการรอบคัดเลือกในแต่ละเขตทั้งหมด 10 เขต รวม 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง จังหวัดชลบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเลย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดภูเก็ต จังหวัดตรัง และกรุงเทพมหานคร โดยจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 7 – 14 กรกฏาคม 2555 โดยใช้สนามกีฬาภายในจังหวัดอ่างทอง 2 สนามคือ สนามที่ 1 สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตอ่างทอง และ สนามที่ 2 สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง
           ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้เป็นการทำให้เด็กและเยาวชนไทยได้มีการตื่นตัวในการออกกำลังกาย ด้วยการเล่นกีฬาฟุตบอล และเป็นการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญญาทางสังคม และเป็นการพัฒนาคณภาพชีวิตของประชาชน ให้อยู่อย่างมีความสุข ตามนโยบายของรัฐบาล

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาพ/ข่าว...สำนักข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)
035-860371 , 081-4012558 , 081-4022579
www.facebook.com/angthongnewstv

      วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๒.๑๒ น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จมาทรงเปิดศูนย์ ๓ วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวบางเจ้าฉ่า จังหวัดอ่างทอง ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ที่ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นศูนย์ที่ ๔๔ เพื่อน้อมนำพระราชปณิธานและพระปณิธานของทั้งสองพระองค์ ในการขยายผลการดำเนินงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยใช้พื้นที่ของศูนย์ฝึกอาชีพตำบลบางเจ้าฉ่า เป็นศูนย์กลางของชุมชน มีสถานศึกษาหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการในปี ๒๕๕๒ ดำเนินกิจกรรมตาม ๕ แนวคิดพระราชทาน มีกิจกรรมฝึกอบรมเสริมทักษะด้านอาชีพ และเป็นแหล่งส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับชุมชนและบุคคลทั่วไป ปัจจุบันมีสมาชิกวัยเด็ก, วัยผู้ใหญ่, และวัยผู้สูงอายุ รวม ๒,๖๒๘ คน

      โอกาสนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆ ภายในศูนย์ฯ ที่มุ่งเน้นสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ร่วมกับการมีส่วนร่วมของสมาชิกทั้ง ๓ วัยในชุมชน ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และลดปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร อาทิ "กิจกรรมดนตรีไทย ๓ วัย" สร้างจิตสำนึกแก่เยาวชนร่วมกันอนุรักษ์ดนตรีไทยไม่ให้สูญหายไปจากชุมชน โดยมีสมาชิกในวัยผู้ใหญ่ และวัยผู้สูงอายุ มาถ่ายทอดความรู้วิธีการเล่นเครื่องดนตรีไทยให้เยาวชนรุ่นหลังสืบทอดต่อไป, "กิจกรรมเตรียมพร้อมก่อนครองคู่ STOP TEEN MOM"หยุดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เป็นการแสดงบทบาทสมมุติระหว่าง เด็กที่ทำแท้ง, เด็กที่ตั้งใจเรียน, เด็กตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร, และกลุ่มพี่สอนน้อง ใช้รูปแบบการซักถามปัญหาโดยใช้เอกสารและหนังสั้นเป็นสื่อการสอน เรื่องการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว,การวางตัว,ป้องกัน, และแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม, "กิจกรรมเรียนรู้ร่วมกันแต่ในครรภ์" โดย ปราชญ์ชาวบ้านจะสอนให้กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ร้องเพลงเห่กล่อม, เล่านิทาน, และสานปลาตะเพียน เพื่อนำไปใช้กับลูกให้มีพัฒนาการสมวัย, "กิจกรรมครอบครัวเสริมกายใจ" ที่ชุมชนร่วมกับศูนย์ ๓ วัยฯ นำภูมิปัญญาการจักสาน ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มีชื่อเสียงของตำบลบางเจ้าฉ่ามาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยพัฒนารูปแบบลวดลาย สีสัน ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งนำเทคนิคการมัดย้อมผ้ามัดหมี่มาปรับประยุกต์ใช้กับงานจักสาน เกิดเป็นลายน้ำไหลที่สวยงาม มีเอกลักษณ์พัฒนาต่อยอดเกิดรายได้เป็นอาชีพ, "กิจกรรมคิดสร้างสรรค์แต่เยาว์วัย" ให้กลุ่มเด็กและเยาวชนมาประดิษฐ์แมลงปอจากกระดาษลูกฟูก และนำประโยคต่างๆ เป็นภาษาในกลุ่มประเทศอาเซียนมาห้อยติด เป็นของเล่นฝึกการเรียนรู้ด้านทักษะภาษา เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต

      จากนั้น ทรงเยี่ยมราษฎร และกลุ่มแม่บ้านงานครัวประจำโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว จังหวัดอ่างทอง ที่มาประกอบอาหารพระราชทาน เลี้ยงราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จ โดยมีนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นางปวีณา หงษ์สกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดอ่างทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่๑๓ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดอ่างทอง ผู้บริหารองค์กรส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชนในพื้นที่จังหวัดอ่างทองร่วมเฝ้ารับเสด็จในครั้งนี้
























 







 


 


 


 

 

          วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 เวลา 13.30 น. นายวีร์รวุทธ์  ปุตระเศรณี  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง  เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสถานศึกษารักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ ระยะที่ 3  ณ วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง  โดยมี นายสมศักดิ์ วงษ์คำ  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง เป็นผู้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน

            สำหรับโครงการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในแนวทางและวิธีดำเนินการ แก่สถานศึกษา  โดยการจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ชี้แจง รวมทั้ง มอบหมายภารกิจสำคัญให้แก่สถานศึกษามีสถานศึกษาของจังหวัดอ่างทอง เข้าร่วม ทั้งสิ้น 140 แห่ง  และได้กำหนดทำข้อตกลงในการดำเนินการ ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2560

ทางคณะสงฆ์ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์   มีดำริที่จะเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติให้เกิดความสงบ สันติสุข  โดยให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักศีล5 มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน  กอรป และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงได้ให้แนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการให้ทุกภาคส่วนในประเทศร่วมมือกัน ดำเนินการให้ประชาชนมีความรัก ความสามัคคี เริ่มจาก ครอบครัว โดยกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน 20 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2557   ระยะปานกลาง  ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 – เดือนกันยายน 2558   และระยะยาว  ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2558 – เดือนกันยายน 2560