ต้นไม้ประจำจังหวัด
"มะพลับ" ต้นไม้ประจำจังหวัดอ่างทอง
มะพลับ (Diospyros areolata King & Gamble)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Diospyros areolata King & Gamble
ชื่อวงศ์ : EBENACEAE
ชื่อท้องถิ่น : เชียงราย เรียก มะพลับ , ม่ากาลับตอง , ม่ากับต๋อง
ลักษณะทั่วไป : มะพลับเป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงถึง 15 เมตร ลำต้นมักคดงอ เปลือกค่อนข้างเรียบ สีน้ำตาลปนเขียวอ่อนหรือปนดำ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ตัวใบรูปขอบขนาน กว้าง 4-7 เซนติเมตร ยาว 7-10 เซนติเมตร โคนใบโค้งมน ขอบใบเรียบ ปลายใบเรียบทู่ เนื้อใบหนาผิวเกลี้ยงทั้งสองด้าน ดอกมีดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ดอกเพศผู้ออกเป็ช่อสั้น ๆ ตามง่าม ใบ ก้านดอกยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร มีขนหนาแน่น ดอกเพศเมียมักออกเดี่ยว ๆ ตามกิ่งเล็ก ๆ ก้านดอกยาว 5-10 มิลลิเมตร มีขน ผลกลมหรือค่อนข้างกลม ผิวมีเกล็ดสีน้ำตาลแดง กลีบจุกผลแต่ละกลีบเกือบไม่ติดกัน เกลี้ยงหรืออาจมีขนบ้างทั้งสองด้าน กลีบส่วนมากจะพับกลับ มีบ้างที่แผ่กางออก ขอบกลีบมันเป็นคลื่น ไม่มีเส้นลายกลีบ
การปลูก : พบขึ้นตามป่าดงดิบ และตามบริเวณป่าชายเลน เหนือระดับน้ำทะเล 2-30 เมตร ทางภาคใต้ ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด
สรรพคุณทางยา : ใช้เปลือกต้นและเนื้อไม้ ต้มเอาน้ำดื่ม บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ใช้เปลือกต้นและเนื้อไม้ย่างไฟให้กรอบ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ชงดื่ม แก้กามตายด้าน บำรุงความกำหนัด
ประโยชน์อื่น ๆ : ยางของลูกมะพลับนำมาละลายน้ำใช้ย้อมแหและอวน เพื่อให้ทนทานเช่นเดียวกับตะโก แต่ยางของลูกมะพลับใช้ได้ดีกว่ามาก เพราะไม่ทำให้เส้นด้ายแข็งกรอบเหมือนผลตะโก จึงทำให้ยางของมะพลับมีราคาดีกว่าตะโกมาก จึงมีพ่อค้าหัวใสนำยางของผลตะโกปลอมขายเป็นยางมะพลับ จึงได้เกิดมีคำพังเพยว่า "ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก"
คติความเชื่อ : มะพลับเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งของคนไทย กำหนดปลูกไว้ทางทิศใต้ (ทักษิณ) ตามโบราณเชื่อกันว่า การปลูกต้นมะพลับในบริเวณบ้านจะทำให้ร่ำรวยยิ่งขึ้น