กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดอบรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมชุมชนในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง
เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พุทธศักราช 2555 เวลา 09.00 น.
นายบรรพต อมราภิบาล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและเผยแพร่ ได้เป็นประธานในการอบรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมชุมชนในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ณ หอประชุมอำเภอเมืองอ่างทอง
นายบรรพต อมราภิบาล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและเผยแพร่ กล่าวว่า จากปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบที่รุนแรง ในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังและสภาพน้ำเน่าเสีย เนื่องจากขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลต่างๆในเขตพื้นที่ถูกน้ำพัดพามาจากบ้านเรือนกรมควบคุมมลพิษ ได้ประเมินปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้นในระหว่างอุทกภัยไว้อย่างคร่าวๆว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 ล้านตัน โดยจะมีขยะและข้าวของเสียหายหลังน้ำลดเฉลี่ย 500 กิโลกรัมต่อคน ส่วนใหญ่ ได้แก่ ถุงพลาสติก ขวด หนังสือ เศษไม้ ตู้ เตียง ทีวี ที่นอน เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งนี่ยังไม่นับรวมสิ่งปฏิกูลและของเน่าเสียที่ทิ้งลงน้ำในระหว่างน้ำท่วม นอกจากปัญหาเรื่องขยะมูลฝอยแล้ว ยังรวมถึงปัญหาพืชผลทางการเกษตรและวัชพืชที่จมอยู่ใต้น้ำ เกิดการหมักหมมและไม่สามารถย่อยสลายได้หรือย่อยสลายได้ ไม่รวดเร็วเพียงพอด้วยกระบวนการชีวภาพตามธรรมชาติ จึงก่อให้เกิดน้ำเน่าเสียและเกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม จึงเป็นปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและทั่วถึง
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดอบรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมชุมชนในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2555 จังหวัดอ่างทอง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างทักษะในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนในด้านขยะมูลฝอยและน้ำเสียเชิงป้องกันตามหลักการ 3Rs (Reduce : ลดการใช้ Reuse: การใช้ซ้ำ Recycle: การนำกลับมาใช้ใหม่) การจัดการขยะมูลฝอยสิ่งปฏิกูลและน้ำเน่าเสียในภาวะวิกฤตน้ำท่วม การแก้ไขปัญหาขยะตกค้าง และการฟื้นฟูสภาพดินและสภาพน้ำในแหล่งน้ำของชุมชนหลังน้ำลด โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคกลาง
โดยการอบรมในครั้งนี้เป็นการอบรมครั้งที่ 5 ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ซึ่งได้เชิญกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย อำเภอโพธิ์ทอง และอำเภอวิเศษชัยชาญ การอบรม ประกอบด้วย การบรรยายแนวทางการจัดการขยะมูลฝอยภายหลังน้ำท่วมและเทคนิคการคัดแยกขยะเพิ่มมูลค่า และการฝึกปฏิบัติการจัดทำน้ำหมักชีวภาพและน้ำยาเอนกประสงค์
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาพ/ข่าว...สำนักข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)
035-860371 , 081-4012558 , 081-4022579
www.facebook.com/angthongnewstv
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 เวลา 09.00 น. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ขอพบผู้บริหารจังหวัดอ่างทองเพื่อแนะนำตัวและหารือในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปพัฒนาจังหวัด ซึ่งมี นายประมวล มุ่งมาตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นผู้บริหารวิทยาศาสตร์จังหวัดระดับสูง (PCSO) ให้การต้อนรับ ณ ห้องศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดอ่างทอง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง
กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้จัดตั้งโครงการศูนย์ประสานงานกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำภูมิภาค ภาคกลางตอนบน (ศวภ.5) เพื่อให้บริการในพื้นที่ภาคกลางตอนบน 8 จังหวัด (ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี) โดยทำหน้าที่สนับสนุนงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจังหวัด และประสานการดำเนินงานร่วมกับ PCSO เพื่อจัดทำแผนงาน/โครงการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยการนำผลงานวิจัยและพัฒนาของหน่วยงานในสังกัด วท. และเครือข่ายไปพัฒนาจังหวัด ซึงได้มีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "การพัฒนาจังหวัดด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม" ระหว่าง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558
วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายปัญญา งานเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นปัจฉิมนิเทศโครงการ งานบริการด้านวิศวกรรมการสำรวจ และออกแบบรายละเอียด โครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงหมายเลข ๔ ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่ สายทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๕ - บรรจบทางหลวงหมายเลข ๓๒ (ทางเลี่ยงเมืองอ่างทอง) ณ ห้องประชุม ชั้น ๒ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง
การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นฯ จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชน หน่วยงาน และองค์กร ระดับต่างๆ ได้รับทราบผลสรุปการศึกษาของโครงการ และรายละเอียดของการดำเนินงานโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงรายละเอียดเพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป