สำนักงานจังหวัดอ่างทอง  จัดพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2556

เมื่อวันพฤหัสบดีที่  17 มกราคม พ.ศ. 2556  เวลา 08.30 น.

            นายวิศว  ศะศิสมิต  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง  ได้เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2556  ณ หอประชุมอำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง
           นายวิศว  ศะศิสมิต  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า วันที่ 17 มกราคม ของทุกปี เป็น “วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช” ความเป็นมาเริ่มจาก เมื่อเดือนธันวาคม 2531 สำนักงานสภาจังหวัดสุโขทัย ได้มีหนังสือเสนอต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ขอให้มีการกำหนด “วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช” ขึ้น โดยถือเอา วันที่ 17 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงประกอบพระราชพิธีและทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็น “วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช”  ต่อมาคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย และจัดเอกสารทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี ได้พิจารณาทบทวนเรื่องการกำหนดวันสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยคำนึงถึงความเหมาะสม และความถูกต้องตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เสนอความคิดว่าควรที่จะเป็น วันศุกร์ที่ 17 มกราคม  2376 เพราะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพบหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช จะเป็นการเหมาะสมกว่า และ ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2532  ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ ในการกำหนดวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ ซึ่งคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ  คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยและจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี ได้พิจารณาเห็นชอบด้วยแล้ว  ดังนั้น วันที่ 17 มกราคม 2533 จึง
เป็น“วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช” วันสำคัญทางประวัติศาสตร์วันหนึ่งซึ่งถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก
         ด้วยชาวอ่างทองสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ  พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระองค์ทรงเป็น พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง กรุงสุโขทัย ทรงทำนุบำรุงปกครองบ้านเมืองด้วยพระเมตตาธรรมต่อไพร่ฟ้า อาณาประชาราษฎร์ทรงสร้างสรรค์มรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมที่สำคัญๆ ของชาติไว้อย่างอเนกอนันต์มรดกของชาติที่สำคัญที่สุดก็คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1826 อันเป็นต้นกำเนิดของอักษรไทยที่ใช้กันในทุกวันนี้ 
          สำหรับจังหวัดอ่างทอง ได้จัดพิธีถวายพานพุ่มดอกไม้สด  ถวายเป็น เครื่องราชสักการะ แด่ดวงพระวิญญาณพ่อขุนรามคำแหงมหาราช  โดยมีหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมพิธีถวายพานพุ่มดอกไม้สด ในครั้งนี้ด้วย




-------------------------------------------------------------------------------------
ภาพ/ข่าว...สำนักข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)
035-860371 , 081-4012558 , 081-4022579
www.facebook.com/angthongnewstv
 

สำนักงานจังหวัดอ่างทอง  จัดพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ เนื่องในวันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เมื่อวันศุกร์ที่  18 มกราคม พ.ศ. 2556  เวลา 07.30 น.
           นายวิศว  ศะศิสมิต  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง  ได้เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ เนื่องในวันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ณ วัดป่าโมกวรวิหาร อำเภอป่าโมกจังหวัดอ่างทอง
           นายกรรมาธิการ  จิตตะมาก ผอ.โรงเรียนวรดิตถ์วิทยาประสูทน์   กล่าวว่า                             สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักร กรุงศรีอยุธยา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระมหากรุณาธิคุณ ยิ่งใหญ่ต่อแผ่นดิน พระราชกรณียกิจของพระองค์ประทับอยู่ในดวงใจของลูกหลานไทยทุกคนเพราะตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์นั้น ล้วนแต่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ  เพื่อธำรงความเป็นชาติไทยและเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติยศของชาติได้กว้างใหญ่ไพศาล ราชอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ใน รัชสมัยของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่ ยากที่จะมีราชอาณาจักรใดในชมพูทวีปทัดเทียมเป็นความภาคภูมิใจของชาติสืบมาจนถึงทุกวันนี้  พระองค์ทรงประกอบวีรกรรมอันยิ่งใหญ่นานัปการ   
           โดยทรงประกาศอิสรภาพให้แก่ลุกหลานไทยที่เมืองแครงในเขตแดนพม่าเมื่อพุทธศักราช 2127  ซึ่งพระองค์ทรงรอบรู้ภูมิประเทศ และทรงมีพระปรีชาญาณในการศึกษาสงครามเฉพาะหน้าอย่างดียิ่ง  โดยเฉพาะเมื่อครั้งทรงมีชัยชนะในสงครามยุทธหัตถีต่อพระมหาอุปราช  ณ ทุ่งหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2135  พระองค์ได้กรีฑาทัพมาตั้งพลับพลา ณ บ้านป่าโมก ซึ่งเป็นที่ตั้งของอำเภอป่าโมก  จังหวัดอ่างทอง  ในปัจจุบันโดยได้ประทับแรมและกระทำพิธีตัดไม้ข่มนาม ณ บริเวณวัดป่าโมกซึ่งชัยชนะครั้งนั้น ทำให้พระเกียรติยศของพระองค์เลื่องลือแพร่หลายไป ทั่วทุกประเทศในชมพูทวีป  และที่สำคัญยิ่งคือชัยชนะของพระองค์ครั้งนั้นทำให้ไม่มีข้าศึกมารุกรานเป็นเวลานาน สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นวีรกษัตริย์ยิ่งใหญ่ พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นั้นใหญ่หลวงนัก ทรงกอบกู้เอกราช ทรงป้องกันราชอาณาจักรทรงขยายราชอาณาจักร ทรงสร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นให้แก่ชาติไทย และทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยทั้งชาติ
            ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้วันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็นวันยุทธหัตถี และเป็นวันรัฐพิธี
              สำหรับจังหวัดอ่างทอง ได้จัดพิธีถวายราชสักการะ  แด่ดวงพระวิญญานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  โดยมีหัวหน้าส่วนราชการต่างๆเข้าร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย







---------------------------------------------------------------------------------------
ภาพ/ข่าว...สำนักข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)
035-860371 , 081-4012558 , 081-4022579
www.facebook.com/angthongnewstv