วันที่ 20 กรกฎาคม 2560 เวลา 09.00 น. นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างทักษะจิตอาสา อาสาสมัคร สภากาชาดไทย หลักสูตรการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ประจำปี 2560 ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลอ่างทอง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

นางทักษณิภร ปุตระเศรณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัคร สภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง จึงได้จัดทำโครงการเสริมสร้างทักษะจิตอาสา อาสาสมัครสภากาชาดไทย "หลักสูตรการปฐมพยาบาลเบื้องต้น" ประจำปีงบประมาณ 2560 เพื่อเพิ่มทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ ในหลักการและวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิถี และยังช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้มีการขยายผลไปยังจิตอาสา อาสาสมัคร สภากาชาดไทยและประชาชนทั่วไปในตำบลและหมู่บ้านของตนเองให้ทราบอย่างแพร่หลายได้อย่างถูกต้อง และเป็นที่พึ่งพาของชุมชนได้ต่อไป

สำหรับการจัดอบรมในครั้งนี้ เป็นการบรรยายให้ความรู้ ความเข้าใจ และฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลเบื้องต้น มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 100 คน ประกอบด้วยจิตอาสา จากทุกอำเภอ อำเภอละ 10 คน คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง จำนวน 20 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ่างทอง ในการอำนวยความสะดวกในด้านสถานที่และวิทยากรในการฝึกอบรมในครั้งนี้

               วันที่ 17 พฤษภาคม 2560 เวลา 9.30 น.  นายวีร์รวุทธ์  ปุตระเศรณี  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง  เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ  “ แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ ”  และมอบแว่นตา (ตัวอย่าง) แก่ผู้สูงวัย จำนวน 10 ราย  โดยมี ดร.พระมหาไพเราะ  ฐิตสีโล  เจ้าอาวาสวัดสระแก้ว  นางทักษณิภร  ปุตระเศรณี  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง  นายไพบูลย์  ศุภบุญ  นายอำเภอป่าโมก  นายบุญส่ง  ไตรภูธร  ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกิจกรรมพิเศษ  ห้างแว่นท็อปเจริญ  ผู้แทนกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ  ข้าราชการ  กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  และประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ คอยให้การต้อนรับ  ณ บริเวณหอประชุมโรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์)  ตำบลบางเสด็จ  อำเภอป่าโมก  จังหวัดอ่างทอง 

                ด้านนายวีร์รวุทธ์  กล่าวว่า  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ทรงเล็งเห็นว่า  หากผู้สูงวัยต้องเลี้ยงดูเด็กกำพร้า  หรือต้องเลี้ยงหลาน  แต่ตามองเห็นได้ไม่ชัดเจน  จะเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว  มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย  จึงได้น้อมนพระกระแสรับสั่งหารือกับห้างแว่นท็อปเจริญ  ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนในการดำเนินงานให้บริการตรวจสายตาและประกอบแว่นแก่เด็กยากไร้ และอยู่ในถิ่นทุรกันดาร  โดยจัดทำโครงการ  “ แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ ”  และขอพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ให้มูลนิธิฯ ดำเนินการร่วมกับห้างแว่นท็อปเจริญ  เพื่อช่วยเหลือในการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป  เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ยากไร้  ด้อยโอกาสและต้องดูแลเด็กด้อยโอกาส และอยู่ในถิ่นทุรกันดาร  มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  โดยกำหนดจัดโครงการระยะแรกเป็นเวลา 5 ปี  ปัจจุบันได้รับพระราชทานราชานุญาตให้ดำเนินการต่ออีก 5 ปี  ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558  ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2562  ซึ่งทางมูลนิธิฯ  จึงบูรณาการ  การจัดโครงการร่วมกับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ  ให้หน่วยงานในสังกัดช่วยทำการคัดกรองผู้สูงวัยที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป  และมีปัญหาทางด้านสายตาเข้ารับบริการ  ออกให้บริการตรวจวัดสายตา  แก่ผู้สูงวัยเดือนละ 1 ครั้ง ๆ ละ 400 คน  และจะประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยทุกคนตามค่าสายตาที่เป็นจริง

               ซึ่งในวันนี้ นับได้ว่าเป็นโอกาสอันดที่ทางมูลนิธิฯ  ห้างแว่นท็อปเจริญ  และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ  ได้นำพระมหากรุณาธิคุณของ  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  มายังประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดอ่างทอง  โดยอำเภอป่าโมก  มีประชาชนผู้สูงวัยยากไร้ด้อยโอกาสเข้าร่วมโครงการตรวจวัดสาย จำนวน 400 คน  ส่งผลให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพที่ดีขึ้น  สามารถช่วยครอบครัวประกอบอาชีพ  ดูแลบุตรหลานที่อยู่ในความอุปการะ  ตลอดจนบุคคลที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้สูงวัย  ทำให้ผู้สูงวัยเกิดความภาคภูมิใจและมีความสุข  อีกทั้งโครงการนี้ยังช่วยผู้สูงวัยที่เป็นต้อกระจกให้ได้รับการผ่าตัดลอกต้อ  ฝังเลนซ์ที่  “ ศูนย์รักษาตา  ท็อปเจริญจักษุ ”  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งนับเป็นนิมิตรหมายที่ดีของผู้สูงวัย ต่อไป     

       วันเสาร์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๘.๓๐ น.ณ หอประชุมอำเภอสามโก้ เป็นโครงการที่จัดทำขึ้ตามยุทธศาสตร์การพัฒนา และส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ สภากาชาดไทยได้ให้บริการตรวจวัดสายตาและมอบแว่นสายตาให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้ดีขึ้น และดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดมอบแว่นสายตาให้กับผู้สูงอายุทั้ง ๗ อำเภอๆละ ๒๐๐ คน รวมทั้งสิ้น ๑,๔๐๐ คน โดยใช้งบประมาณจากเหล่ากาชาดจังหวัดอ่าทอง และเงินอุดหนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดอ่างทอง  

         วันที่ 6 มีนาคม 2562  เวลา 09.00 น.  นายเรวัต ประสงค์  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอ่างทอง ด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” และการจัดการศึกษาท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประจำปี พ.ศ. 2562 โดยดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะมูลฝอยการสร้างการรับรู้และส่งเสริมการสร้างวินัย “แยกก่อนทิ้ง” และเสริมสร้างศักยภาพในการจัดการศึกษาท้องถิ่น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประธานสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ และบุคลากรสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมจำนวน 168 คน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น65 แห่ง โดยมี นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายธนา ยันตรโกวิท ที่ปรึกษาด้านการส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานชมรมแม่บ้านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้เกียรติมาเป็นวิทยากร โดยมีสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง อำนวยการโดยนางสาวแสงมณี มีน้อย หัวหน้ากลุ่มงาน และเจ้าหน้าที่ ดำเนินโครงการครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 6-9 มีนาคม 2562 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง, จังหวัดเชียงราย, จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน