วันที่ 09 ตุลาคม 2560 เวลา 11.00 น. นายวีร์รวุทธ์  ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง  นายรัฐฐะ สิริธรังศรี ปลัดจังหวัดอ่างทอง นายวินัย อ่ำรัศมี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง พร้อมเจ้าหน้าที่ออกสำรวจจุดเสี่ยง  เพื่อเตรียมการป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง  ณ บริเวณริมเขื่อนคลองบางแก้ว หมู่ 10  ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง  โดยกระแสน้ำในคลองบางแก้วมีความสูงขึ้นมา ตามแนวกำแพงป้องกันน้ำ ร่วม 2 เมตร ตลอดแนวป้องกัน ริมคลองบางแก้ว สาขาแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นระยะทาง ร่วม1 กิโลเมตร  โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอิฐ ได้ทำการวางกระสอบทราย  ตามทางขึ้นลงเขื่อน พร้อมเร่งสูงน้ำที่รั่วซึมออกจากพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในชุมชน

            นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่าสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา   ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวป้องกันตามแนวเขื่อนขนานกับคลองบางแก้ว มีน้ำสูงขึ้นกว่าครึ่งกำแพงเขื่อน   พร้อมได้นำเจ้าหน้าที่โยธาและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวของในพื้นที่ ออกสำรวจและประเมินสถานการความแข็งแรงของกำแพง  ที่ต้องต้านทานแรงกดดันจากกระแสน้ำที่สูงขึ้นตลอดเวลา ว่ามีความมั่นคงแข็งแรงและรับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น   โดยเตรียมวางคันดินขนานกับแนวกำแพง เป็นระยะทาง กว่า 1กิโลเมตร เพื่อเสริมความแข็งแรงของกำแพงเขื่อน และป้องกันการรั่วซึมของน้ำ  โดยให้ทางเจ้าหน้าโยธาที่ลงพื้นที่ประเมินความเสี่ยง พร้อมทั้งหางบประมาณบาบริหารจัดการ

            สำหรับสถานการณ์น้ำเหนือที่ไหลหลากเพิ่มขึ้น  ทางเขื่อนเจ้าพระยาระจังหวัดชัยนาท  ได้ควบคุมการบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน อยู่ที่ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประมาณ 1  สัปดาห์  แต่หากฝนตกลงมาเพิ่มเติม ในพื้นที่ก็เป็นความเสียงเพิ่มขึ้น ทางจังหวัดอ่างทอง ได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 16 ชัยนาท  ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ มา  เตรียมวางติดตั้งโดยรอบพื้นที่เขตเศรษฐกิจและศูนย์ราชการ  เพื่อสูบน้ำที่รั่วและน้ำฝนที่ตลลงมาในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน  

            ด้านสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนในจังหวัดอ่างทอง ขยายวงกว้าง  มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน  จากน้ำท่วมบ้านเรือนแล้ว จำนวน1,297 หลังคาเรือน 5 อำเภอ  ล่าสุดที่บริเวณ ที่สถานีวัดระดับน้ำ C7A   หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง  มีระดับอยู่ที่ 8.16  เมตร  จากระดับตลิ่ง 9.32  มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,991 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 

          วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 เวลา 09.30 น. พลตำรวจโท พิจาร จิตติรัตน์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางมาพื้นที่จังหวัดอ่างทองเพื่อที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ในอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ  เครืองาม) โดยมรนายประมวล  มุ่งมาตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายอำเภอเมืองอ่างทอง นายอำเภอวิเศษชัยชาญ นายอำเภอป่าโมก และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ ณ บริเวณพื้นที่อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก และอำเภอไชโย

                โครงการที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ มีทั้ง 4 โครงการ ได้แก่

1. โครงการซ่อมแซมและปรับปรุงถนน คสล. หมู่ที่ 4 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก

2. โครงการวางท่อระบายน้ำบริเวณหน้าโรงพยาบาลอ่างทอง ถนนเทศบาล 6 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองอ่างทอง

3. โครงการซ่อมสร้างถนน คสล. สายทางแยกทางหลวง ชนบท 3195 - คันคลองวัดเขียน, 3195 คันคลองชลประทาน - คลองตาม่วง และ 4024 - คลองวัดเขียน ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ

4. โครงการขุดลอกคลองบ้านเบิก อำเภอไชโย

           วันที่ 18 กันยายน 2560 เวลา 16.00 น. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดเกษตรสุวพันธ์พร้อมสุ่มตรวจตราช่างวัดน้ำหนักสินค้า ณ ตลาดเกษตรสุวพันธ์ ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง โดยมีนายประมวล มุ่งมาตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

           สำหรับการลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของตลาดเกษตรสุวพันธ์ และตลาดปลา ตลาดปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง ตรงมีการสอบถามรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่อไป

            นอกจากนี้ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจตราช่างวัดน้ำหนักสินค้าของร้านค้าต่างๆ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่เพื่อป้องกันการกระทำผิดและเพื่อป้องกันผู้บริโภคให้สามารถซื้อสินค้าได้อย่างถูกต้องเป็นไปตามน้ำหนักและราคาที่กำหนด

              วันที่ 12 ตุลาคม 2560 เวลา 13.30 น. นาย วีร์รวุทธ์  ปุตระเศรณี  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง  พร้อมด้วยนางทักษณิภร  ปุตระเศรณี  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง  นาย ไพบูลย์  ศุภบุญ  นายอำเภอ ป่าโมก  เหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง  และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง  ลงพื้นที่ ตรวจสอบสถานการณ์น้ำและเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกับประชาชน ณ บริเวณหมู่ที่ 4 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และได้มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น

               ด้าน นาย วีร์รวุทธ์  กล่าวว่า  หลังจากที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว  ซึ่งทางเขื่อนเจ้าพระยา  จังหวัดชัยนาท  จำเป็นที่จะต้องเพิ่มการระบายน้ำเพิ่มขึ้น  เพื่อรับมวลน้ำจากทางภาคเหนือ  ส่งผลทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองโผงเผง  ซึ่งเป็นสาขา  ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่นอกเขตคันกั้นน้ำอย่างรวดเร็ว  จนทำให้ได้รับความเดือดร้อน  ซึ่งในวันนี้ตนเอง  พร้อมด้วยนายอำเภอป่าโมก  และเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง  จึงได้ลงพื้นที่ออกสำรวจตรวจสอบความเสียหาย และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกับประชาชน  ที่กำลังประสบความเดือดร้อนกับอุทกภัยในครั้งนี้  พร้อมกับมอบถุงยังชีพของ  สภากาชาดไทย  จำนวน 50 ถุง  ซึ่งในถุงยังชีพประกอบไปด้วย  ข้าวสาร 5 กิโลกรัม 1 ถุง  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จำนวน 10 ห่อ  น้ำมันพืช 1 ขวด  ปลากระป๋อง จำนวน 6 กระป๋อง  ผักกาดกระป๋อง จำนวน 6 กระป๋อง  น้ำปลา 1 ขวด  น้ำตาลทราย 1 ถุง  เกลือ 1 ถุง  เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับประชาชนในพื้นที่  โดยทางจังหวัดอ่างทอง  จะได้พิจารณาให้การช่วยเหลือกับผู้ที่ประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้ต่อไป

               ล่าสุดที่สถานีวัดระดับน้ำ C7A  หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง  มีระดับอยู่ที่ 8.66  เมตร  จากระดับตลิ่ง 9.32  มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,460 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนแล้ว 25 ตำบล 71 หมู่บ้าน  จำนวน 1,567 หลังคาเรือน  ได้รับความเดือนร้อนทั้งหมด 5 อำเภอ  คือ  อำเภอเมือง  อำเภอวิเศษชัยชาญ  อำเภอป่าโมก  อำเภอไชโย  และอำเภอโพธิ์ทอง  ซึ่งระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทางจังหวัดอ่างทอง  ได้ประชาสัมพันธ์ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน  พร้อมประชุมเตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา และจัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด