วันที่ 22 มีนาคม 2560 เวลา 09.00 น. นายวีร์รวุทธ์  ปุตระเศรณี  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานเปิดงาน "สตรีอ่างทอง สนองปณิธานของพ่อ มุ่งสานต่อ ทำความดีถวายในหลวง" โดยมีนางทักษณิภร  ปุตระเศรณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง นายสุรเชษ  นิ่มกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง นางบุญยิ่ง  เทศน้อย พัฒนาการจังหวัดอ่างทอง นางอรัญญา  สีหมอก รักษาราชการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางเสาวเพ็ญ  จำปาเป้า ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง นายรุ่งฤทธิ์ เศรษฐลักษณ์ ขนส่งจังหวัดอ่างทอง พร้อมกลุ่มสตรีจากทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดอ่างทอง จำนวนกว่า 300 คน เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง

     นางทักษณิภร ปุตระเศรณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากล เพื่อให้ประชาชนในแต่ละประเทศได้ตระหนักถึงความสำคัญของสตรี ให้เกียรติและเคารพในสิทธิอันชอบธรรมในการดำรงชีวิตอย่างมีเกียรติ ปัจจุบันสังคมไทยได้มีการจัดทำแผนพัฒนาสตรีอย่างเป็นระบบมาตรฐานมาตั้งแต่ปี 2515 ทำให้สตรีได้รับการพัฒนามากขึ้นในทุกๆด้าน โดยเฉพาะด้านความเสมอภาค การได้รับโอกาสทางการศึกษา การได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารระดับสูง แสดงให้เห็นในความสามารถอย่างชัดเจน ถึงความมุ่งมั่นและเป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป

     จังหวัดอ่างทองโดยสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานพัฒนาชุมชน และคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดอ่างทอง จึงได้จัดงานสตรีอ่างทอง สนองปณิธานของพ่อ มุ่งสานต่อ ทำความดี ถวายในหลวง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย และน้อมนำหลักคิดมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การบรรยายพิเศษหัวข้อตามรอยพ่อ ชีวิตพอเพียง เพื่อสุขเพียงพอ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และการจัดนิทรรศการของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติของสตรีต่อไป

          วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2560 เวลา 10.00 น. นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานเปิดงาน อ่างทองพรรณไม้งามครั้งที่1 "เสกสรรค์พรรณไม้ถวายพ่อหลวง" ระหว่างวันที่ 28 - 30 ธันวาคม พ.ศ.2560 ณ อุทยานสวรรค์อ่างทองหนองเจ็ดเส้น อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
          นายรัฐฐะ สิริทรังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า โครงการอุทยานสวรรค์อ่างทองหนองเจ็ดเส้น เป็นโครงการต่อยอด จากโครงพัฒนาพื้นที่แก้มลิงหนองเจ็ดเส้น อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิชัยพัฒนาทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานพระราชานุมัติ ให้พัฒนาพื้นที่หนองเจ็ดเส้นนี้ เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่แก้มลิงหนองเจ็ดเส้น อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีพื้นที่ 320 ไร่ ปัจจุบัน เป็นอ่างเก็บน้ำนาด 99 ไร่ และ 163 ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นพื้นดิน 70 ไร่ กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรได้กว่า 1,400,000 ลูกบาศก์เมตร ช่วยเกษตรกรได้ถึง 2,000 ไร่

          ต่อมาในปี 2559 จังหวัดอ่างทอง โดยความร่วมมือ ร่วมใจ จากทุกภาคส่วน ได้ช่วยกันปรับปรุงฟื้นฟูอุทยานสวรรค์แห่งนี้ ให้กลับมา มีความสวยงาม ด้วยเหตุผลที่สำคัญคือ สถานที่แห่งนี้คือโครงการพระราชดำริ ของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ชาวอ่างทองต้องช่วยกันดูแลรักษา จัดสร้างให้เป็นแหล่งเรียนรู้ศาสตร์ของพระราชา และสร้างสวนสาธารณะสำหรับออกกำลังกาย พักผ่อน พร้อมศึกษาธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งในภาคกลาง และที่สำคัญ เพื่อให้เพื่อให้ชาวจังหวัดอ่างทอง ได้ร่วมกันสร้าง อุทยานสวรรค์อ่างทองหนองเจ็ดเส้น อุทยานแห่งความจงรักภักดี ถวายเป็นพระราชกุศล

          สำหรับ งานอ่างทองพรรณไม้งามครั้งที่1 "เสกสรรค์พรรณไม้ถวายพ่อหลวง" กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 - 30 ธันวาคม 2560 ณ อุทยานสวรรค์อ่างทองหนองเจ็ดเส้น อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง โดยมีกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ นิทรรศการบ้านของพ่อ, ดนตรีหน้าสวน , งานมาลาในสวนศรี , ดนตรีในสวนสวรรค์ , การออกร้าน กลุ่ม OTOP Angthong , การแข่งขันจักรยานน้ำ ,ประกวดร้องเพลงจินตลีลา และการประกวดจัดสวนหย่อมตามรอยพ่ออย่างพอเพียง

         วันที่ 2 เมษายน 2561 เวลา 19:00 น. นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง  เป็นประธานในงานอนุรักษ์มรดกไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  จังหวัดอ่างทอง ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง

         การอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมเป็นการแสดงออกถึงสัญลักษณ์  ของความเป็นชาติ ซึ่งได้แก่ โบราณวัตถุ  ศิลปวัตถุ  โบราณสถาน  วรรณกรรม  ศิลปหัตถกรรม  นาฏศิลป์และดนตรี ตลอดจนการดำเนินชีวิตและคุณค่าประเพณีต่างๆ อันเป็นผลผลิตร่วมกันของผู้คนในผืนแผ่นดินในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา  การจัดงานวันอนุรักษ์ไทยครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของภาคราชการ เครือข่ายทางวัฒนธรรม และชุมนุมที่ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สืบไป

        โดยภายในงานมีการแสดงอนุรักษ์มรดกไทย ชุดระบำพัธวิสัย การแสดงนาฏมวยไทย การแสดงโขนสด   การขับร้องเพลงลูกทุ่งไทย การสาธิตผลิตภัณฑ์และการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม การแสดงดนตรีไทยจากวัดจุฬามณี การแสดงรำโทนมารยาทไทย การแสดงชุดสืบสารตำนานศิลป์ การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งไทย