สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี  เสด็จพระราชดำเนิน จังหวัดอ่างทอง

 เมื่อวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2555   เวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเจ็ดเส้น อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.สายทอง อ.ป่าโมก และต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ทรงเปิดอุทยานสวรรค์ 115 ปี อ่างทองหนองเจ็ดเส้นเฉลิมพรเกียรติ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งทางจังหวัดร่วมกับทุกภาพส่วน และชาวอ่างทอง จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแสดงความจงรักภักดี และสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี มีราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา และกรมชลประธาน นำพื้นที่มาจัดทำเป็นโครงการขนาดเล็ก เพื่อช่วยกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝน บรรเทาปัญหาอุทกภัยที่มักจะส่งปัญหาต่อเนื่อง และในฤดูแล้ง เกษตรกรสามารถสูบน้ำไปใช้ประโยชน์ได้ด้วย ผ่านในพื้นที่กว่า 300 ไร่ สามารถรองรับน้ำได้ประมาณ 1,500,000 ลูกบาตรเมตร ช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง รวมถึงอำเภอบางประหัน และอำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวม 238 ครัวเรือนพื้นที่รวม 2,000 ไร่

            นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบยังพัฒนาด้านการเกษตรสร้างบ้านพักให้ราษฎรด้อยโอกาส ไม่มีที่ทำกินเข้าพักอาศัยและทำการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง มีการปรับปรุงบำรุงดินจนสามารถผลิตพืชผลทางการเกษตรได้เป็นอย่างดี โดยเกษตรกรได้รับการส่งเสริมปลูกพืชผักแบบผสมผสาน เพาะเห็ดนางฟ้าทำให้ได้มีรายได้หมุนเวียน ทำแปลงสาธิตการลดต้นทุนการผลิตข้าว เป็นสถานที่เรียนรู้ให้ผู้ที่สนใจเข้าศึกษา สร้างโรงสีข้าวขนาดเล็กเพื่อราษฎรนำข้าวมาสีรับประทาน ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์น้ำ ทั้งไก่ เป็ด และหมูหลุม ที่เกษตรกรนำแกรบและมูลสัตว์มาเป็นปุ๋ยคอกได้ ตลอดจนยังฝึกฝนเกษตรกรเรื่องต่างๆ อาทิ การจัดทำบัญชีครัวเรือน การรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างพลังการซื้อขาย โอกาสนี้มีพระราชดำริให้ส่งเสริมการตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง

            โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตรส่วนต่างๆ ภายในอุทยานที่ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ในรูปแบบสวนมหัศจรรย์แห่งจินตนาการ เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประกอบด้วยการแสดงพันธุ์พืชเขตร้อนชื้น ,สวนสมุนไพร และไม้ยืนต้นพื้นบ้าน ,สวนบัวนานาชาติ และพันธุ์ไม้น้ำ รวมถึงอุโมงค์ผักนานาชนิด



 



















         เวลา 11.40 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยัง วัดป่าโมกวรวิหาร ทรงยกช่อฟ้าพระอุโบสถ ที่ได้รับการบูรณะ ปฏิสังขรณ์และเสร็จสมบูรณ์ เป็นรูปทรงเรือสำเภาศิลปกรรมสมัยอยุธยา ได้รับการขึ้นเป็นโบราณสถานจากรมศิลปกร เมื่อปี พ.ศ.2478 วัดป่าโมกวรวิหาร ชาวบ้านเรียกว่าวัดใต้ท้ายตลาด เป็นวัดโบราณ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า สร้างในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี มีพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนที่มีพระพุทธลักษณะงดงาม ทรงคุณค่าอย่างมากองค์หนึ่งของไทย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพระมหากษัตริย์ และประชาชนสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 36 องค์ มีเรื่องราวการชะลอพระนอนใหญ่จากริมฝั่งแม่น้ำน้อยเพื่อให้พ้นจากกระแสน้ำกัดเสาะตลิ่งพัง ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ มาประดิษฐ์สถาน ณ บริเวณวัดตลาด จากนั้นทรงสร้างพระวิหารหลังใหม่ครอบไว้ ผนวกเอาวัดชีปะขาวเข้ากับวัดตลาด และพระราชทานนามว่า วัดป่าโมก 










          เวลา 12.23 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยัง วัดท่าสุทธาวาส ในการถวายผ้าพระกฐินสภากาชาดไทย ประจำปี 2555 เพื่อนำเงินของผู้มีจิตศรัทธา โดยเสด็จพระราชกุศลบูรณปฏิสังขรณ์วัดท่าสุทธาวาส วัดท่าสุทธาวาสสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2175 ชาวบ้านเรียกว่าวัดท่า ตั้งอยู่ที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในอารามแบ่งออกเป็น 4 เขตคือเขตพุทธวาส เป็นที่ตั้งพระอุโบสถประจำพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี มีพระพุทธรูปปรางค์มารวิชัย เป็นพระประธานในพระอุโบสถ เป็นศิลปะสมัยอโยธยา บริเวณใกล้เคียงประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ นอกจากนี้ยังมีเขตธรรมาวาส เขตสังฆาวาส และเขตอรัญญิกาวาส ที่ตั้งของฌาปนสถานเป็นเชิงตะกอนแบบโบราณ ภายในวัดยังมีเจดีย์ก่ออิฐถือปูนย่อมุมไม้ 12 ศาลาโถงทรงไทยไม้สัก และโรงสีเทพประทาน 2 ซึ่งเป็นโรงสีขาว ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พระราชทานแก่ชาวบ้าน ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง



















----------------------------------------------------------------------------------------
ภาพ/ข่าว...สำนักข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)
035-860371 , 081-4012558 , 081-4022579
www.facebook.com/angthongnewstv