วันที่ 18 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น.  นายวีร์รวุทธ์  ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นพลเมืองของเยาวชนในระบอบประชาธิปไตย ณ โรงเรียนสตรีอ่างทอง โดยมี ดร.ศริชัย  เพชรรักษ์ ประธานคณะกรรมการจัดโครงการฯ ดร.วินัย ปานแดง ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีอ่างทอง คณะครู และนักเรียนให้การต้อนรับ

    นายวีร์รวุทธ์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งที่อยู่ภายใต้โครงการผู้นำเยาวชนแห่งอนาคตรุ่นที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันพระปกเกล้า เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ตามวิถีรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังได้รับความรู้และเข้าใจในเนื้อหาสาระสำคัญ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการเป็นพลเมือง เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้ยั่งยืน การดำเนินชีวิตตามแนวทางประชารัฐเพื่อเป็นประโยชน์ต่อไป

               วันที่ 27 กรกฎาคม 2561 เวลา 18.30 น.    นายวีร์รวุทธ์  ปุตระเศรณี  ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง  เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเที่ยวงาน  “วัดขุนอิน  ชมวิถีท้องถิ่น  เมืองอ่างทอง”  ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2561  ณ บริเวณวัดขุนอินทประมูล  ตำบลอินทประมูล  อำเภอโพธิ์ทอง  จังหวัดอ่างทอง  โดยมี นางจุรีพร  ขันตี  วัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง  ข้าราชการ  พ่อค้า  และประชาชน  เข้าร่วมในพิธีเปิดเป็นจำนวนมาก  โดยไฮไลท์ในพิธีเปิดเป็นการแสดงการละเล่นของเด็กไทยในสมัยโบราณ  และการแสดงเชิดหุ่นคนของนักศึกษามหาวิทยาลัยหัวเฉียว  ที่โด่งดังไปทั่วโลก

               ด้าน นางจุรีพร  กล่าวว่า  โครงการเที่ยวงาน  “วัดขุนอิน  ชมวิถีท้องถิ่น  เมืองอ่างทอง”  ประจำปีงบประมาณ พ. ศ. 2561  จังหวัดอ่างทอง  ได้รับการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม  กระทรวงวัฒนธรรม  ให้ดำเนินโครงการเที่ยวงาน  วัด 55 เมืองรองบ้านเรา  เนื่องด้วยจังหวัดอ่างทอง  เป็นจังหวัดที่มีความพร้อมและมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ  ประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม  ผนวกกับความเข้มแข็งของชุมชน  และเครือข่ายทางวัฒนธรรม  การจัดกิจกรรมโครงการเที่ยวงาน  “วัดขุนอิน  ชมวิถีท้องถิ่น  เมืองอ่างทอง”  เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนมีความรู้ภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น  และฟื้นฟู  อนุรักษ์  มรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น  พัฒนาต่อยอดสู่การสร้างงาน  สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและครอบครัว  และเพื่อส่งเสริมให้เกิดพื้นที่ทางวัฒนธรรม  ที่สะท้อนเอกลักษณ์  และอัตลักษณ์ท้องถิ่น  และเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยว 

                การจัดกิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วย  การแสดงทางวัฒนธรรม  การแสดงพื้นบ้าน  การละเล่นเด็กไทย  การสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม  การจำหน่ายสินค้า  ผลิตภัณฑ์  ตลอดจนสินค้าทางการเกษตร  และอื่น ๆ

          วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 เวลา 08.30 น. นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง/ ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดอ่างทอง ได้มอบสิ่งของพระราชทานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้แก่ครอบครัวที่ประสบอัคคีภัย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 โดยมี นางจำเนียร พึ่งแย้ม เป็นเจ้าของบ้านดังกล่าว เลขที่ 28 ม.5 ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง ซึ่งเพลิงได้ไหม้บ้านเสียหายหมดทั้งหลัง รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 7,500,000 บาท

          โดยในการมอบสิ่งของพระราชทานฯ มีนายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ ปลัดจังหวัดอ่างทอง นายอำเภอโพธิ์ทอง หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดอ่างทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลับ รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการอำเภอ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลับ กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ต.บางพลับ ประชาชนจิตอาสา อสม. อปพร. เข้าร่วมในพิธีฯ และอำนวยความสะดวก ให้ช่วยเหลือด้านต่าง ๆ

     วันที่ 4 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00 น. นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เปิดโครงการค่ายพลังแห่งบวร บ้าน วัด โรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณธรรมให้แก่เด็กและเยาวชนอย่างบูรณาการ ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอ่างทอง แห่งที่ 8 วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

     นายวีร์วุทธ์ กล่าวว่า จากสภาพปัญหาต่าง ๆ ของสังคมในปัจจุบันนั้น โดยเฉพาะปัญหาของเด็กและเยาวชน การป้องกัน และแก้ไขปัญหา จำเป็นต้องคำนึงถึงโครงสร้างของปัญหาทั้งหมดที่เชื่อมโยงกันทั้งในระดับครอบครัวและชุมชน ซึ่งแนวคิดที่มีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ของเด็กและเยาวชนได้อย่างต่อเนื่องนั้น ได้แก่แนวคิด บวร โดยยึดสถาบันหลักของชุมชน 3 สถาบัน มาประสานความร่วมมือกัน คือ สถาบันครอบครัวหรือบ้าน สถาบันศาสนาหรือวัด และโรงเรียน เพื่อให้การดำเนินการป้องกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีศักยภาพอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการประยุกต์หลักพุทธธรรมทางพระพุทธศาสนา คือ ศีล 5 มาใช้เป็นหลักธรรมพื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ ซึ่งนับว่าเป็นรั้วชุมชน และรั้วครอบครัวที่เขเมแข้งในการป้องกันเด็กและเยาวชนจากปัญหาสังคมต่าง ๆ และอบายมุขต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

     สำหรับการอบรมในครั้งนี้นั้นมีนักเรียนเข้าร่วมอบรมทั้ง 104 คน จากทั้งหมด 13 โรงเรียนในเขตพื้นที่อำเภอวิเศษชัยชาญ ระยะเวลาการอบรมทั้งหมด 3 วัน 2 คืน