วันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 นาย วีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยนาย เรืองชัย ลิ้มบูรณพันธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดอ่างทอง นาย สมพิศ พูลสวัสดิ์ เกษตรจังหวัดอ่างทอง นาง พรรชนี ลิ้มสุคนธ์ พาณิชย์จังหวัดอ่างทอง นาย ไพบูรณ์ ศุภบุญ นายอำเภอป่าโมก นาย วิทยา คมคาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางเสด็จ และคณะ เดินทางไปตรวจความพร้อมของโรงสีข้าวเทพประทาน 2 ตามโครงการประชารัฐรักสามัคคีอ่างทองช่วยชาวนา ณ บริเวณโรงสีเทพประธาน 2 ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี กล่าวว่า รัฐบาลได้มีนโยบายแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งผลการสำรวจพื้นที่จังหวัดอ่างทอง พบว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2559 จะมีผลผลิตข้าวปทุมธานี 1 ข้าวขาวทั่วไป และข้าวขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 155,188 ตัน คิดเป็นร้อยละ 74.7 ของผลผลิตข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 ทำให้ประสบปัญหาขายข้าวเปลือกได้ในราคาต่ำ เนื่องจากชาวนามีการจำหน่ายข้าวเปลือกสดให้กับโรงสีเพียงอย่างเดียว ไม่มีการแปรรูปเป็นข้าวสารเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งต้นทุนการผลิตสูง ทำให้ชาวนาเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทางจังหวัดอ่างทอง จึงได้ดำเนินการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีอ่างทอง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และโรงสีเทพประทาน 2 โดยการรับซื้อข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ของเกษตรกรนาแปลงใหญ่ จากโครงการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ ปีการผลิต 2559/60 ปริมาณ 10 ตัน ในราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป เพื่อนำมาเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปเป็นข้าวสาร รวมถึงการกระจายข้าวสารบรรจุถุงออกสู่ตลาด เพื่อให้ถึงมือผู้บริโภคได้ทันท่วงที โดยเป้าหมายต่อไปจะรับซื้อ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และข้าวเปลือกเจ้า ประมาณ 20 ตัน
สำหรับแผนการเปิดจุดจำหน่ายในส่วนของจังหวัดอ่างทอง โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาสัมพันธ์การจำหน่ายข้าวสารตามโครงการประชารัฐรักสามัคคีอ่างทอง ช่วยชาวนาในราคายุติธรรมต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยจำหน่ายให้กับหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน รัฐวิสาหกิจ ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม เอกชน และประชาชนทั่วไป
นายปัญญา คำพรเหลือ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 จำหน่ายราคา 250 บาท โดยนำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย
จังหวัดอ่างทอง จึงขอความร่วมมือข้าราชการ และลูกจ้าง ทุกหน่วยงาน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ร่วมสั่งจองได้ตั้งแต่บัดนี้ – วันที่ 31 สิงหาคม 2554 และรับเข็มที่ระลึกได้ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.2554 เป็นต้นไป ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ภายในทำเนียบรัฐบาล และธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเติมได้ที่ โทร. 0-2281-7224
วันที่ 4 เมษายน 2561 เวลา 8.30 น. บริเวณศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง นาย วีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานในพิธีการเปิดธนาคารขยะอย่างเป็นทางการ ตามที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทอง จัดขึ้นตามโรดแม็ปของรัฐบาลในเรื่องของการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ที่กำหนดให้มีการสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ สร้างวินัย และจิตสำนึกในการแก้ไขปัญหาขยะแก่ประชาชน โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน และประชาชน ต่างนำขยะประเภทต่าง ๆ นำมาฝากกับธนาคารขยะเป็นปฐมฤกษ์ในวันแรกกันอย่างคึกคัก
ด้าน นาย วีร์รวุทธ์ กล่าวว่า การเปิดธนาคารขยะในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดธนาคารขยะแห่งแรกที่มีการเปิดขึ้นในสถานที่ราชการ โดยเฉพาะที่ศาลากลางจังหวัด ซึ่งทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทอง ได้นำแนวทางการบริหารจัดการมาจากองค์การบริหารส่วนตำบลโพสะ ซึ่งประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการขยะในพื้นที่มาใช้ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไป ข้าราชการสามารถเปิดบัญชีกับธนาคาร เพื่อนำสิ่งของเหลือใช้มาขายในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาด จำนวน 1 บาท โดยเทียบราคาจากร้านซื้อของเก่าร้านวงพาณิชย์ เป็นหลัก ซึ่งสมาชิกที่เปิดบัญชีเมื่อนำสิ่งของเหลือใช้มาขาย ทางธนาคารขยะจะทำการชั่งและจ่ายเป็นเงินตามราคาสิ่งของ และฝากเข้าธนาคารให้ ผู้ที่เป็นสมาชิกสามารถจะถอนเงินได้ก็ต่อเมื่อมีเงินในบัญชีมากว่า 100 บาท และในการถอนจะต้องเหลือเงินติดบัญชีอย่างน้อย 100 บาทเช่นกัน ในเบื้องต้นได้กำหนดให้มีการรับซื้อสิ่งของเหลือใช้เดือนละ 1 ครั้ง หากมีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ก็จะพิจารณาในเรื่องของการเปิดซื้อสิ่งของเหลือใช้มากขึ้น สำหรับจังหวัดอ่างทอง ติดอันดับที่ 4 ในเรื่องของการบริหารจัดการขยะ รองลงมาจาก กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และภูเก็ต ซึ่งในวันนี้มีหน่วยงานของทางราชการ และประชาชนที่สนใจนำขยะมาฝากให้กับธนาคาร จำนวน 66 ราย เพื่อเป็นการลดปัญหาขยะล้นเมืองกันต่อไป
อ่างทอง ผวจ.อ่างทอง ตำรวจกองปราบปรามและนายกบ้านอิฐร่วมกันสร้างบ้านให้ผู้ยากไร้ในพื้นที่ตำบลบ้านอิฐ
ที่บ้านเลขที่ 37/12 หมู่ 10 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และนางทักษณิภร ปุตระเศรณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทองพร้อมด้วยพ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.ศราณุ โสมทัต พ.ต.ท.ชวลิต ศาสตร์เวช รอง ผกก.ปพ.บก.ป. จากกองร้อยที่ 2,3,4,5,6 กก.ปพ.บก.ป. นายก อบต.บ้านอิฐ และประธานชุมชนบ้านอิฐ ได้ร่วมกันส่งมอบบ้านเลขที่ 37/12 หมู่ 10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง ให้แก่ น.ส.สุจิน ดียิ่ง ซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาสและมีฐานะยากจน
นายสมชาย สุเมฆะกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอิฐ กล่าวว่า การมอบบ้านในครั้งนี้เป็นการมอบบ้านพักอาศัยให้แก่ น.ส.สุจิน ดียิ่ง ซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาสและมีฐานะยากจน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบาก เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตอยู่บนพื้นฐานความจำเป็นขั้นพื้นฐานในปัจจัยสี่เหมือนกับประชาชนทั่วไปได้อย่างปกติสุข ซึ่งการสร้างบ้านในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งจังหวัดอ่างทองนำโดยนายวีร์วุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นางทักษณิภร ปุตระเศรณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง พร้อมคณะ เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการ ปราบปรามนำโดย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป.และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอิฐ ซึ่งมีงบประมาณในการจัดสร้างประมาณ 100,000 บาท ถือเป็นโครงการที่ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุขต่อไป