เชื่อมโยงหน่วยงาน

มากกว่า...

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

รู้จักอ่างทอง

ปลาประจำจังหวัด

ปรับขนาดตัวอักษร

 "ปลาตะเพียนทอง"

ประกาศให้เป็นปลาประจำจังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558

ชื่อสามัญ : RED-TAIL TINFOIL BARB

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Barbonymus altus (Gunther, 1868)

ชื่อท้องถิ่น : "ตะเพียนหางแดง" หรือ "ลำปำ" หรือ "เลียนไฟ" ในภาษาใต้ ซึ่งซ้ำกับปลากระแห

ประวัติความเป็นมา : อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) มีรูปร่างคล้ายปลากระแห (B. schwanenfeldi) ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกัน เชื่อว่าเป็นปลามงคลตั้งแต่ครั้งอดีตถึงปัจจุบัน และยังเป็นปลาในวรรณคดีไทยแต่โบราณกาล ดังกาพย์แห่เรือ ตอนแห่ชมปลา พระนิพนธ์ในเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐสุริยวงศ์ หรือเจ้าฟ้ากุ้ง กวีเอกแห่งกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย "ตะเพียนทองงามดั่งทอง ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย" อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการสานเป็นปลาตะเพียนทองใบลาน

ลักษณะทั่วไป : มีเกล็ดตามลำตัวแวววาวสีเหลืองทองเหลือบแดงหรือส้ม ครีบหางเป็นสีส้มหรือสีแดงสด ปลาตะเพียนทองมีเกล็ดใหญ่กว่าปลากระแห และครีบหลัง ครีบหางไม่มีแถบสีดำ ขนาดโตเต็มที่ประมาณไม่เกิน 30 เซนติเมตร จัดเป็นปลาชนิดหนึ่งที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม และที่สำคัญยังมีชื่อพ้องกับจังหวัดอ่างทอง คือคำว่า "ทอง"

ถิ่นอาศัย : ปลาตะเพียนทองเป็นปลาที่คนไทยรู้จักกันดี มีถิ่นกำเนิดในน่านน้ำจืด พบชุกชุมในเขตพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ในลำน้ำเจ้าพระยาและลำน้ำน้อย โดยเฉพาะแหล่งปลาหน้าวัดทุกแห่งในเขตจังหวัดอ่างทอง 

 

 

หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์..

ปรับขนาดตัวอักษร

แผนที่การเดินทางจังหวัดอ่างทอง

ปรับขนาดตัวอักษร

 

การคมนาคม :

 

เส้นทางการคมนาคมภายในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง แบ่งเป็น 2 ทางด้วยกัน คือ ทางรถยนต์และทางเรือ ประชาชนส่วนใหญ่นิยมการเดินทาง และการขนส่งทางรถยนต์มากที่สุด การติดต่อภายในจังหวัดระหว่างอำเภอต่าง ๆ สามารถติดต่อกันได้ครบทุกอำเภอโดยทางรถยนต์ ซึ่งมีสภาพเส้นทางเป็นทางลาดยางแอลฟัสต์ตลอด นอกจากนี้ มีเส้นทางชนบทเป็นเส้นทางที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กรมโยธาธิการ ทางหลวงชนบทจังหวัด กรมชลประทาน และองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นถนนเชื่อมติดต่อระหว่างหมู่บ้านกับหมู่บ้าน และหมู่บ้านกับอำเภอ

 

 

 

การคมนาคมขนส่งทางน้ำ :

มีแม่น้ำที่สำคัญ 2 สาย คือ แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย สามารถใช้สัญจรไปมาได้ตลอดปีแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านท้องที่อำเภอไชโย อำเภอเมือง อำเภอป่าโมก ระยะทางยาวประมาณ 40 กิโลเมตร และแม่น้ำน้อยซึ่งเป็นแม่น้ำที่แยกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงจังหวัดชัยนาทไหลลงมาผ่านท้องที่อำเภอโพธิ์ทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ ระยะทางยาวประมาณ 50 กิโลเมตร

 

ปรับขนาดตัวอักษร

คำถามที่พบบ่อยของจังหวัดอ่างทอง

1. จะเดินทางไปวัดขุนอินทประมูล ใช้เส้นทางใด
    ตอบ  จากถนนสายเอเชียแยกเข้าอ่างทอง ไปตามถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านตลาดอ่างทอง เจอสี่แยกเรือนจำให้เลี้ยวขวา ตรงไปประมาณ 2 กม. เจอสามแยกป่างิ้วให้ตรงไป ประมาณ 5 กม. จะเจอโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ให้ชิดขวาเพื่อกลับรถ แล้วชิดซ้ายจะพบป้ายวัดขุนอินทประมูลให้เลี้ยวซ้าย ตรงเข้าไปประมาณ 4 กม. วัดจะอยู่ทางขวามือ 

2. ช่องทางการร้องเรียน-ร้องทุกข์ ของประชาชน จะสามารถร้องเรียนได้ช่องทางใดบ้าง 

ตอบ

  1.  ร้องเรียนโดยตรงได้ที่ สำนักงานจังหวัดอ่างทอง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอ่างทอง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง
  2. ส่งจดหมายร้องเรียน ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง 
  3. ร้องเรียนทางเว็บไซต์จังหวัดอ่างทอง http://www.angthong.go.th/petition/web


3.
ศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP และของที่ระลึกจังหวัดอ่างทอง ตั้งอยู่ที่ใด
    ตอบ  1. หมู่ 8 ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
           2. วัดไชโย  ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง

4. วัดที่นิยมท่องเที่ยวไหว้พระ 9 วัด มีวัดใดบ้าง และเริ่มจากวัดไหนถึงวัดไหน
    ตอบ  เดินทางจากกรุงเทพ มาตามถนนสายเอเชีย เริ่มต้นดังนี้
           1. วัดจันทรังษี
           2. วัดต้นสน
           3. วัดขุนอินทประมูล
           4. วัดโพธิ์หอม
           5. วัดไชโยวรวิหาร
           6. วัดม่วง
           7. วัดสี่ร้อย
           8. วัดป่าโมกวรวิหาร
           9. วัดท่าสุทธาวาส

ต้นไม้ประจำจังหวัด

ปรับขนาดตัวอักษร

"มะพลับ" ต้นไม้ประจำจังหวัดอ่างทอง

 

มะพลับ (Diospyros areolata King & Gamble)

          ชื่อวิทยาศาสตร์  :  Diospyros areolata King & Gamble 

           ชื่อวงศ์  :  EBENACEAE

           ชื่อท้องถิ่น  :  เชียงราย เรียก มะพลับ , ม่ากาลับตอง , ม่ากับต๋อง

           ลักษณะทั่วไป  :  มะพลับเป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงถึง 15 เมตร ลำต้นมักคดงอ เปลือกค่อนข้างเรียบ สีน้ำตาลปนเขียวอ่อนหรือปนดำ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ตัวใบรูปขอบขนาน กว้าง 4-7 เซนติเมตร ยาว 7-10 เซนติเมตร โคนใบโค้งมน ขอบใบเรียบ ปลายใบเรียบทู่ เนื้อใบหนาผิวเกลี้ยงทั้งสองด้าน ดอกมีดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ดอกเพศผู้ออกเป็ช่อสั้น ๆ ตามง่าม ใบ ก้านดอกยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร มีขนหนาแน่น ดอกเพศเมียมักออกเดี่ยว ๆ ตามกิ่งเล็ก ๆ ก้านดอกยาว 5-10 มิลลิเมตร มีขน ผลกลมหรือค่อนข้างกลม ผิวมีเกล็ดสีน้ำตาลแดง กลีบจุกผลแต่ละกลีบเกือบไม่ติดกัน เกลี้ยงหรืออาจมีขนบ้างทั้งสองด้าน กลีบส่วนมากจะพับกลับ มีบ้างที่แผ่กางออก ขอบกลีบมันเป็นคลื่น ไม่มีเส้นลายกลีบ

การปลูก  :  พบขึ้นตามป่าดงดิบ และตามบริเวณป่าชายเลน เหนือระดับน้ำทะเล 2-30 เมตร ทางภาคใต้ ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด

สรรพคุณทางยา  :  ใช้เปลือกต้นและเนื้อไม้ ต้มเอาน้ำดื่ม บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ใช้เปลือกต้นและเนื้อไม้ย่างไฟให้กรอบ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ชงดื่ม แก้กามตายด้าน บำรุงความกำหนัด

           ประโยชน์อื่น ๆ  :  ยางของลูกมะพลับนำมาละลายน้ำใช้ย้อมแหและอวน เพื่อให้ทนทานเช่นเดียวกับตะโก แต่ยางของลูกมะพลับใช้ได้ดีกว่ามาก เพราะไม่ทำให้เส้นด้ายแข็งกรอบเหมือนผลตะโก จึงทำให้ยางของมะพลับมีราคาดีกว่าตะโกมาก จึงมีพ่อค้าหัวใสนำยางของผลตะโกปลอมขายเป็นยางมะพลับ จึงได้เกิดมีคำพังเพยว่า "ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก"

           คติความเชื่อ  :  มะพลับเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งของคนไทย กำหนดปลูกไว้ทางทิศใต้ (ทักษิณ) ตามโบราณเชื่อกันว่า การปลูกต้นมะพลับในบริเวณบ้านจะทำให้ร่ำรวยยิ่งขึ้น

 

14655446
วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา
เฉพาะเดือนนี้
เดือนที่ผ่านมา
ทั้งหมด
3711
3807
29576
14589443
248232
280110
14655446

IP 54.198.146.13
Server Time: 2024-03-29 22:46

สำหรับเจ้าหน้าที่

ปรับขนาดตัวอักษร

Copyright © 2015 จังหวัด อ่างทอง
จัดทำโดย กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดอ่างทอง ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง
โทร.0-3561-1235 , 0-3561-4912  e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. / This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.