สาธารณสุขจังหวัดอ่างทองเตือนผู้บริโภค  ระวังอันตรายยาจิ่วเจิ้งปู่เซินเจียวหนัง ผสมยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ

พบ ยาจิ่วเจิ้งปู่เซินเจียวหนัง ใส่สาร “อะมิโน ทาดาลาฟิล” ซึ่งจัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ใช้ในการ

รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หวั่น อันตรายต่อผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ

โรคความดันโลหิตสูง หากได้รับยาดังกล่าวอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เตือน ประชาชน งดการซื้อและใช้ยา

ดังกล่าว ทั้งนี้ หาก อย. พบว่าผู้ผลิตมีเจตนาลักลอบใส่ยาดังกล่าว จะดำเนินคดีทั้งจำทั้งปรับ

นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า กรณียาจิ่วเจิ้งปู่เซิน

เจียวหนัง เลขทะเบียน G 298/49 อนุมัติขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2549 ผลิตโดยบริษัท จงไท้

เจี้ยนหมิงเอี้ยวเอี้ย (กรุ๊ป) จำกัด ซึ่ง อย. ได้เก็บตัวอย่างยาดังกล่าวส่งตรวจ ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2554 ปรากฎพบสารอะมิโน ทาดาลาฟิล ( Amino Tadalafil) ซึ่งเป็นอนุพันธ์

ของตัวยา Tadalafil จัดเป็นยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาควบคุมพิเศษผสมอยู่ ดังนั้น ยาดังกล่าว จึงไม่ใช่

ยาแผนโบราณ ตามตำรับที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ อย.

รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลการตรวจวิเคราะห์ยาจิ่วเจิ้ง-

ปู่เซินเจียวหนัง พบสารอะมิโน ทาดาลาฟิล ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบัน ที่ อย. ห้ามใช้ในยาแผนโบราณ เนื่องจาก

การรับประทานยาดังกล่าวโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์อาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ

โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งหากได้รับยาดังกล่าวอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และขอเตือนประชาชนงด

การซื้อและใช้ยาดังกล่าว เนื่องจากตัวยา ทาดาลาฟิล หรือนุพันธ์ จัดเป็นยาควบคุมพิเศษใช้ในการรักษา

อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อนุญาตให้จำหน่ายได้เฉพาะสถานพยาบาลและร้านขายยา ที่ อย. กำหนด

โดยต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์มาซื้อเท่านั้น นอกจากนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา โดยเฉพาะ

ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจ หรือผู้ป่วยที่กินยาขยายหลอดเลือด กลุ่มไนเตรต (Nitrates)

อยู่ ซึ่งยา 2 กลุ่มนี้จะเสริมฤทธิ์กันทำให้ความดันเลือดลดต่ำจนเกิดอาการช็อคและเสียชีวิตได้

รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวต่อไปว่า วันนี้ (26 กันยายน 2554) อย. ได้เข้า

ตรวจสอบสถานที่ผลิต และได้อายัดยาทั้งหมดของบริษัทแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนหาสาเหตุของปัญหา

สำหรับกรณีนี้ อย. จะมีหนังสือแจ้งบริษัทฯ ให้เรียกเก็บยาดังกล่าวออกจากท้องตลาด และทำหนังสือชี้แจง

แก่ อย. โดยเร็วที่สุด ซึ่งหากพบว่าผู้ผลิตเจตนาใส่ยาดังกล่าว จะมีความผิดฐานผลิตยาปลอม และยาแผน-

ปัจจุบันที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา กรณีผลิตยาปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี – ตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่

10,000 – 50,000 บาท กรณีผลิตยาแผนปัจจุบันที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ

ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนื้ ขอให้ผู้บริโภคช่วยเป็นหูเป็นตาแทนราชการ หากพบเห็น

ผลิตภัณฑ์ยาผิดกฎหมาย ขอให้ร้องเรียนมายังสายด่วน อย. โทร. 1556 เพื่อ อย. จะได้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ต่อไป รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยากล่าวในที่สุด