นางนันทิยา พัวพันธุ์ ประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการพัฒนาระบบ
ประกันสุขภาพของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว
และเป็นธรรมตามสิทธิของผู้ป่วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกัน
สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รวมทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนได้ร่วม
บูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ ๓ กองทุน ทั้งระบบกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาล
ข้าราชการ กองทุนประกันสังคมและกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “เจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิต
ไม่ถามสิทธิ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น” ด้วยระบบการรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินที่มีความเสี่ยง
ต่อการเสียชีวิตสูง ผู้ป่วยฉุกเฉินสามารถเข้ารับบริการจากโรงพยาบาลทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชน โดยไม่ถูกทวงถาม
สิทธิก่อนรักษา ไม่ต้องสำรองค่ารักษาพยาบาล ไม่ถูกบ่ายเบี่ยงการรักษา และได้รับการดูแลรักษาจนกว่าอาการ
จะทุเลา ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับการบริการสาธารณสุขที่จำเป็นอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพเท่าเทียมกัน
นางนันทิยาฯ กล่าวต่อว่า จากนโยบายดังกล่าว ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมจะได้รับประโยชน์
เพิ่มขึ้น คือ ผู้ประกันตนจะมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเมื่อผู้ประกันตนเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ หรือฉุกเฉินรุนแรง
และเข้ารับบริการในโรงพยาบาลใกล้ที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ก็จะได้รับการ
รักษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน และไม่ต้องสำรองเงินจ่าย รวมทั้งไม่ต้องมายื่นขอเบิกเงินจากสำนักงานประกันสังคม
ซึ่งเป็นการลดขั้นตอนที่ทำให้เกิดความยุ่งยากกับผู้ประกันตน หากผู้ประกันตนรายใดมีข้อสงสัย สามารถติดต่อ
สอบถามได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง เลขที่ ๒ ถนนเทศบาล ๘ ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง โทรศัพท์หมายเลข ๐ ๓๕๖๒ ๕๑๔๖ ต่อ ๑๑๑-๑๑๕ ในวันและเวลาราชการ หรือ โทรสายด่วน
๑๕๐๖ ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
------------------------
สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง
๖ เมษายน ๒๕๕๖
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 นายนิจ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทอ่างทอง ร่วมโครงการ "ติดตามผลการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จังหวัดอ่างทอง" ณ ตำบลอ่างแก้ว และตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง จำนวน 14 หมู่บ้าน เพื่อให้การขับเครื่องการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม และบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยมีการบูรณาการการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จังหวัดอ่างทอง
จังหวัดอ่างทองร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดอ่างทอง ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี สมททุน จัดสร้างพุทธมณฑลจังหวัดอ่างทอง และสาธารณกุศลอื่น ๆ โดยจัดทอดผ้าป่าสามัคคี จำนวน ๑,๙๙๙ กอง กองละ ๑,๙๙๙ บาท จึงขอเชิญชวนและบอกบุญมายังผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทรัพย์ทอดผ้าป่ามหากุศลครั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศล สมทบทุนจัดสร้างพุทธมณฑลจังหวัดอ่างทอง และสาธารณกุศลอื่น ๆ โดยพร้อมเพียงกัน ในวันพฤหัสบดีที่ ๖เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔(ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๑)
ว่าที่ร้อยตรีเถกิง ชีรนรวนิชย์ แรงงานจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2554 สำนักงานแรงงานจังหวัดอ่างทองได้จัดทำโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองและหัวหน้าส่วนราชการเยี่ยมเยือนสถานประกอบกิจการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง (นายวิศว ศะศิสมิต) พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก ประมาณ 40 คน เข้าเยี่ยมเยือนสถานประกอบกิจการ บริษัท เค ที เอ็มเอสจี จำกัด (อายิโนะทะกะระ) (ประกอบกิจการผลิตผงชูรสและเครื่องปรุงรส) และบริษัท ฟูจิอิ จำกัด (ประกอบกิจการผลิตปุ๋ยอินทรีย์) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ตั้งอยู่เลขที่ 9 หมู่ที่ 4 อยุธยา-อ่างทอง ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โดยคณะเยี่ยมเยือนมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบเกี่ยวกับการดำเนินการ และปัญหาต่างๆของบริษัทฯรวมทั้งแนะนำภารกิจของหน่วยงานของรัฐให้แก่บริษัท ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้ให้การต้อนรับ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง