เชื่อมโยงหน่วยงาน

มากกว่า...

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ปรับขนาดตัวอักษร

สำนักงานประกันสังคม แจงผู้ประกันตนถูกเลิกจ้าง ลาออกจากงานหรือว่างงาน ให้รีบขึ้นทะเบียน

หางาน ณ สำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ลาออกหรือถูกเลิกจ้าง ซึ่งสำนักงาน

ประกันสังคม พร้อมช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน

              นางนันทิยา พัวพันธุ์ ประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างหรือออกจากงาน โดยส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า ๖ เดือนภายในระยะเวลา ๑๕ เดือนก่อนการว่างงาน จะได้รับเงินทดแทนกรณี

ว่างงาน ไม่ว่าจะถูกเลิกจ้างหรือลาออกเอง นอกจากนี้ ยังได้รับความคุ้มครองในกรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ

และตายต่อไปอีก ๖ เดือน นับแต่วันที่ออกจากงาน ทั้งนี้ ต้องไปขึ้นทะเบียนหางาน ที่สำนักงานจัดหางานของรัฐ

ที่ใดก็ได้ตามที่ท่านสะดวก ภายใน ๓๐ วันหลังถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงาน เพื่อรับสิทธิประโยชน์ในกรณีว่างงาน

หากเกินจะไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ได้ครบถ้วน หลักฐานที่ผู้ประกันตนต้องเตรียมไป ได้แก่ รูปถ่ายขนาด ๑ นิ้ว

๒ รูป บัตรประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา หนังสือรับรองการออกจากงาน หรือคำสั่งของนายจ้างให้ออกจากงาน

และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน

               นางนันทิยาฯ กล่าวต่อว่า กรณีผู้ประกันตนว่างงานเพราะถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินทดแทนในระหว่าง

ว่างงาน ในอัตราร้อยละ ๕๐ ของค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบ ระยะเวลาไม่เกิน ๑๘๐ วัน ส่วนกรณีที่ผู้ประกันตนลาออก

หรือสิ้นสุดสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนในระหว่างการว่างงาน

ในอัตราร้อยละ ๓๐ ของค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบ ระยะเวลาไม่เกิน ๙๐ วัน หากลูกจ้าง ผู้ประกันตนรายใดมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง เลขที่ ๒ ถนนเทศบาล ๘

ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง โทรศัพท์หมายเลข ๐ ๓๕๖๒ ๕๑๔๖ ต่อ ๑๑๑-๑๑๕ ในวันและ

เวลาราชการ หรือ โทรสายด่วน ๑๕๐๖ ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

 

------------------------

 

 

                                                                                                                                           สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง

                                                                                                                                                     ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ปรับขนาดตัวอักษร

สำนักงานประกันสังคม แนะนำให้ผู้ประกันตนที่เป็นโสด ควรทำเอกสารระบุชื่อผู้มีสิทธิรับประโยชน์

ทดแทนไว้ล่วงหน้าให้ชัดเจนและถูกต้องสมบูรณ์ เมื่อผู้ประกันตนเสียชีวิต ผู้มีสิทธิสามารถใช้เป็นหลักฐาน

ในการแสดงตัวขอรับประโยชน์ทดแทนได้ต่อไป

              นางนันทิยา พัวพันธุ์ ประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง แนะนำผู้ประกันตนที่เป็นโสด ควรทำเอกสาร

ระบุชื่อผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนไว้ล่วงหน้า พร้อมใส่เลขประจำตัวประชาชนของผู้ที่รับสิทธิประโยชน์และ

พยานให้ชัดเจน จึงจะถือว่าเอกสารฉบับดังกล่าวถูกต้องสมบูรณ์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแสดงตัวว่าเป็นผู้มีสิทธิ

รับประโยชน์ทดแทนอย่างแท้จริง และให้ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนเป็นผู้เก็บไว้เอง เพื่อจะได้

นำไปยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ที่สำนักงานประกันสังคม เมื่อผู้ประกันตนเสียชีวิต

              สำหรับผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทน ท่านใดที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิต

ของผู้ประกันตนที่เสียชีวิตไปแล้ว สามารถมายื่นขอรับสิทธิได้ภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่ผู้ประกันตนเสียชีวิต

ณ สำนักงานประกันสังคมที่ท่านสะดวก เพื่อป้องกันปัญหาการแอบอ้างรับประโยชน์ทดแทน หากไม่มีผู้มาติดต่อ

ขอรับประโยชน์ทดแทน เงินส่วนนั้นจะตกเป็นของกองทุนประกันสังคมตามที่กฎหมายกำหนด

               กรณีผู้ประกันตนที่แต่งงานแล้ว มีคู่สมรส บุตร หรือ บิดา/มารดา ยังมีชีวิตอยู่ และผู้ประกันตน

ไม่ได้ทำหนังสือระบุชื่อผู้รับสิทธิประโยชน์ไว้ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินกรณีดังกล่าวให้กับทายาทหรือ

ผู้มีสิทธิคนละเท่าๆ กัน ส่วนผู้ประกันตนที่ไม่ได้แต่งงาน และ บิดา/มารดาเสียชีวิต และไม่มีทายาท หากประสงค์

จะมอบเงินสงเคราะห์ในกรณีดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่นเป็นผู้มีสิทธิได้รับ ผู้ประกันตนสามารถทำหนังสือระบุ

ผู้รับสิทธิรับประโยชน์ทดแทนได้

               นางนันทิยาฯ กล่าวต่อว่า หากผู้ประกันตนรายใดมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด

เพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง เลขที่ ๒ ถนนเทศบาล ๘ ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมืองอ่างทอง

จังหวัดอ่างทอง โทรศัพท์หมายเลข ๐ ๓๕๖๒ ๕๑๔๖ ต่อ ๑๑๑-๑๑๕ ในวันและเวลาราชการ หรือ โทรสายด่วน

๑๕๐๖ ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

 

------------------------

 

 

                                                                                                                                           สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง

                                                                                                                                                    ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ปรับขนาดตัวอักษร

นางจุฑาทิพ ลักษณา ประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ความคุ้มครองประกันสังคมตามมาตรา 40 เป็นรูปแบบความคุ้มครองตามความสมัครใจ ดังนั้น ผู้ประกันตนบางคนเริ่มสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ตั้งแต่อายุ 15 ปี

และส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเรียนจบการศึกษาและบางคนก็มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ซึ่งคนกลุ่มนี้เมื่อเข้าสู่ระบบการจ้างงาน

ตามกฎหมายประกันสังคม จะถูกบังคับให้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จึงส่งผลให้มีคนบางคนเป็นผู้ประกันตนทั้ง 2 ฐาน คือ

เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ก่อน และต่อมาได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ด้วย หากยังมีการส่งเงินสมทบทั้ง 2 ฐานก็ส่งผลให้

เกิดสิทธิในการได้รับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคมทั้ง 2 ฐาน ซึ่งตามกฎหมายเมื่อเกิดกรณีการได้รับประโยชน์ทดแทน

ในลักษณะเดียวกันทั้ง 2 ฐาน กฎหมายจะกำหนดให้ผู้ประกันตนเลือกรับสิทธิประโยชน์สูงได้เพียงกรณีเดียวเท่านั้น

                 สำหรับกฎหมายประกันสังคมตามมาตรา 40 ที่ได้ออกเป็นพระราชบัญญัติ มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ประกันตน

มาตรา 40 ไว้ “มาตรา 40 บุคคลอื่นใดซึ่งมิใช่ลูกจ้างมาตรา 33 จะสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนตามพระราชบัญญัตินี้ให้แสดงความจำนง

ต่อสำนักงาน” ดังเมื่อพิจารณาตามกฎหมายแล้วเมื่อผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่ได้สมัครเป็นผู้ประกันตนไว้ก่อน และมีการนำส่งเงิน

สมทบอย่างต่อเนื่อง แต่ต่อมาได้สมัครเข้าทำงานเป็นลูกจ้างและมีประกันสังคมตามมาตรา 33 ผู้ประกันตนกลุ่มนี้จะต้องสิ้นสุดความ

เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทันทีนับจากวันที่ได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เนื่องจากตามกฎหมายประกันสังคมได้ห้ามไม่ให้

ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 หลายคนอ่านเรื่องนี้แล้วอาจจะกังวลว่าเงินสมทบที่ได้ส่งเข้ากองทุน

ประกันสังคมตามมาตรา 40 ก่อนหน้าที่จะได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะยังคงอยู่หรือไม่ ตรงส่วนนี้ต้องขอเรียนทำความเข้าใจ

เป็นประเด็นๆ ดังนี้ครับ

                 1.กรณีที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ได้มีการจ่ายเงินสมทบไว้ล่วงหน้าแล้ว ต่อมาได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สำนักงาน

ประกันสังคมจะคืนเงินล่วงหน้าในส่วนที่เหลือภายหลังจากเดือนที่ได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 คืนให้กับผู้ประกันตน

               2.กรณีที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่เลือกสิทธิประโยชน์ที่มีเงินกรณีชราภาพ ไม่ว่าจะเป็นเงินบำเหน็จ หรือเงินบำนาญ

แล้วสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน เนื่องจากได้ไปเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เงินชราภาพในส่วนนี้สำนักงานประกันสังคมจะคืนให้

พร้อมดอกผลแก่ผู้ประกันตนเมื่อมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนแล้ว

                 3.กรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่ได้กลับไปเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 แต่ต่อมาได้เสียชีวิต แต่มีเงินกรณีชราภาพ

ตามมาตรา 40 ที่ยังคงอยู่ในกองทุนประกันสังคม ซึ่งต้องรอรับเมื่อมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์นั้น หากผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย

สำนักงานประกันสังคมจะคืนเงินชราภาพของผู้ประกันตนที่เสียชีวิตดังกล่าวพร้อมดอกผลให้กับทายาทของผู้ประกันตนทั้งหมด

                 นางจุฑาทิพฯ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามการได้เข้าสู่ระบบความคุ้มครองประกันสังคมของผู้ใช้แรงงาน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ

ความคุ้มครองประกันสังคมแบบบังคับตามมาตรา 33 หรือรูปแบบความคุ้มครองแบบสมัครใจมาตรา 39 หรือตามมาตรา 40

ล้วนแล้วแต่มีส่วนเติมเต็มให้ผู้ใช้แรงงานที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ ได้รับสิทธิความคุ้มครองทางสังคมที่เรียกว่า

“ประกันสังคม” ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับผู้ประกันตนและครอบครัว หากผู้ประกันตนรายใดมีข้อสงสัยติดต่อสอบถาม

รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง เลขที่ 2 ถนนเทศบาล 8 ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมีอง จังหวัดอ่างทอง

โทร 0 3561 2199 ต่อ 131-134 ในวันและเวลาราชการ หรือ สายด่วน 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

                                                                                   ---------------------------------

28 กรกฎาคม 2557                

15184070
วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา
เฉพาะเดือนนี้
เดือนที่ผ่านมา
ทั้งหมด
6768
16757
40458
15116648
34841
170375
15184070

IP 3.147.58.230
Server Time: 2024-07-04 09:21

สำหรับเจ้าหน้าที่

ปรับขนาดตัวอักษร

Copyright © 2015 จังหวัด อ่างทอง
จัดทำโดย กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดอ่างทอง ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง
โทร.0-3561-1235 , 0-3561-4912  e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. / This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.